ลำโพง
ลำโพง
ลำโพงหรือดอกลำโพง ( loudspeaker,
speaker) ส่วนใหญ่จะใช้เรียกรวมไปถึงดอกลำโพงหรือตัวขับ(driver)
ซึ่งลำโพงจัดเป็นตัวแปลงขั้วกระแสไฟฟ้า จะเกิดเสียงได้ก็ต่อเมื่อ
มีการป้อนสัญญาณไฟฟ้าให้กับขดลวด หรือมีการนำลำโพงไปต่อกับเครื่องขยายสัญญาณเสียง จึงทำให้เกิดการส่งสัญญาณของเสียงออกมาที่ลำโพง
จนเกิดเป็นคลื่นเสียงขึ้นมา
เรียกได้ว่าลำโพงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเครื่องเสียงเลยก็ว่าได้
เพราะหน้าที่สำคัญสุดของลำโพงคือ
เปลี่ยนสัญญาณทางไฟฟ้าที่ได้มาจากเครื่องขยายเป็นสัญญาณเสียงและขับออกมาให้เราได้ยินกันนั้นเอง
ประเภทของลำโพงหรือดอกลำโพง
หลายคนคงสงสัยกันนะครับว่าลำโพงหรือดอกลำโพงมีกี่ประเภท
ทำหน้าที่และให้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างไร
โดยเราจะพาไปเริ่มดูจากอันแรกกันเลยครับนั้น ได้แก่
1.Full-range
drivers
ไดรฟ์เวอร์ลำโพงแบบ full-range ถูกกำหนดให้เป็นไดรฟ์เวอร์ที่ทำช่วงความถี่เสียงได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เพราะ ลำโพง Full-range จะเป็นดอกลำโพงเดียวที่สามารถให้เสียงได้ครบทุกช่วงเสียง
ระบบควบคุมส่วนใหญ่จะเป็นแบบเดี่ยว เช่น
วิทยุหรือลำโพงคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่จะสามารถทำช่วงเสียงออกมาได้ทั้งหมด -FULL RANGE DRIVERS เป็นลำโพงที่มีเสียงย่านความถี่ครบทั้ง
สูง – กลาง – ต่ำ ในดอกเดียวกัน
2.Subwoofer
ซับวูฟเฟอร์ (หรือซับ) เป็นวูฟเฟอร์
ซึ่งทำหน้าที่ในการทำเสียงความถี่ต่ำเรียกว่าเบส
ช่วงความถี่ทั่วไปสำหรับซับวูฟเฟอร์คือประมาณ 20-200 Hz สำหรับ ต่ำกว่า 100 Hz สำหรับมืออาชีพที่ทำการเล่นเสียงสดหรืองานคอนเสิร์ต
และต่ำกว่า 80 Hz ในระบบ
THX ที่ได้รับการรับรอง
ซับวูฟเฟอร์มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่วงความถี่ต่ำของลำโพงที่ครอบคลุมคลื่นความถี่สูงกว่า
ถึงแม้ว่าคำว่า "ซับวูฟเฟอร์" ในทางเทคนิคจะหมายถึง
ไดรเวอร์ของลำโพงเท่านั้น แต่โดยทั่วไปที่เราใช้พูดและเข้าใจกันมักจะหมายถึง
ไดรเวอร์ของซับวูฟเฟอร์ที่ติดตั้งอยู่ในตู้ลำโพง
3. Woofer
วูฟเฟอร์เป็นไดร์เวอร์ที่ให้กำเนิดความถี่ต่ำ
ตัวขับทำงานร่วมกับลักษณะของตู้เพื่อผลิตความถี่ต่ำที่เหมาะสม
ระบบลำโพงบางตัวใช้วูฟเฟอร์สำหรับความถี่ต่ำสุด
โดยบางครั้งวูฟเฟอร์ดีพอที่จะไม่ต้องใช้ซับวูฟเฟอร์เข้ามาช่วยเลยก็ได้
นอกจากนี้ลำโพงบางตัวยังใช้วูฟเฟอร์ในการรับมือกับความถี่ระดับตรงกลาง
สามารถทำได้ด้วยการเลือก Tweeter
ที่สามารถทำงานได้ต่ำพอสมควรรวมกับวูฟเฟอร์ที่ตอบสนองได้ดีทำให้ไดรเวอร์ทั้งสองสามารถเพิ่มความถี่ในการเชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืน
4. Mid-range
driver
ลำโพงระดับกลางเป็นไดร์เวอร์
ดอกลำโพงที่ทำย่านความถี่โดยทั่วไประหว่าง 250-2,000 Hz หรือที่เรียกว่า 'mid' frequency (ระหว่างวูฟเฟอร์และทวีตเตอร์)
จะมีการให้เสียงที่ปกติส่วนมากจะเป็นเสียงร้อง โดยแผ่นไดอะแฟรมไดร์เวอร์สามารถทำจากกระดาษหรือวัสดุผสมและสามารถเป็นไดร์เวอร์การแผ่รังสีโดยตรง
(แทนที่จะเป็นวูฟเฟอร์ขนาดเล็ก) หรือสามารถบีบอัดไดร์เวอร์ได้
(เช่นเดียวกับการออกแบบทวีตเตอร์บางตัว)
ดอกลำโพงทวีตเตอร์หรือลำโพงเสียงแหลมเป็นลำโพงชนิดพิเศษ
ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความถี่เสียงสูงโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 HZ ถึง
20,000 Hz โดย
Tweeter บางตัวสามารถส่งคลื่นความถี่สูงได้ถึง
100 kHz โดยชื่อ
Tweeter นี้ได้มาจากการเปรียบเทียบ
เหมือนกับเสียงแหลมสูงของนกบางตัว
6. Coaxial
drivers
ดอกลำโพง Coaxial คือลำโพงที่มีไดรฟเวอร์ตั้งแต่สองตัวขึ้นไปมีตำแหน่งรวมกันจากทั้ง
Tweeter และ
Mid-Range เพื่อให้เสียงพุ่งออกมาจากจุดเดียวกัน
ซึ่งตรงนี้จะเปรียบเสมือนกับการพูดของคนเรา ที่มีเสียงพูดออกมาจากจุดเดียวกัน
เพราะจะได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากที่สุด ตรงนี้หลายคนก็น่าจะได้เห็นกันบ้างแล้วกับนวัตกรรม
Uni-Q ของ
KEF
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น